วัดพระธาตุลำปางหลวง

สวัสดีครับพบกับบทความใหม่ MLM Better Life Blog

นำเสนอสิ่งดี ๆ สู่ชีวิต ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

ภาพวัดพระธาตุลำปางหลวง ที่ผ่านรูแสงสว่างเข้ามาในห้อง แต่กลับหัวกลับหาง

ภาพปริศนาที่คงอยู่คู่เมืองลำปางมาเนิ่นนานแต่ครั้งบรรพกาล ภูมิปัญญาของสล่าล้านนาซึ่งค้นหาความอลังการผ่านพบจากช่องเพียงเท่ารูเข็ม มลังเมลืองอยู่ในความมืดทาบทาให้เห็นเป็นภาพเสมือนจริง ใครจะเชื่อว่า บนฉากผ้าขาวเพียงผืนเดียวจะมีภาพพระธาตุหัวกลับปรากฏให้เห็นได้ภายในวิหารอันมืดมิด

พระธาตุหัวกลับ : unseen in Thailand

 

ลูกจ๋า…แม่ปวดหลังจ้ะ

รูปภาพ

      ลูก   คือของขวัญล้ำค่าสำหรับผู้เป็นแม่  ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่าการได้เห็นลูกน้อยเกิดมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรง   แต่กว่าที่ทารกน้อยจะออกมาลืมตาดูโลก แม่ต้องอุ้มท้องนาน ๙ เดือน ช่วงที่ตั้งครรภ์ ต้องแบกภาระทุกอย่างสรีระเปลี่ยนไป  น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับทารก ความแปรปรวนทางอารมณ์ จิตใจ แต่ไม่ว่าจะหนักแค่ใหนคุณแม่ทุกคนก็พร้อมที่จะรับมืออย่างไม่รู้จักเหนื่อยหน่าย

ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เวลาคุณแม่จะลุก นั่ง ยืน หรือเดิน จึงต้องเกร็งและแอ่นหลังมากขึ้น แม้ยืนเฉยๆ  ก็ทำให้ปวดหลังได้แล้ว อาการปวดหลังจะมีมากขึ้นเมื่อเข้าสู่เดือนหลัง ๆ เพราะท้องจะถ่วงด้านหน้ามากขึ้น  จึงต้องออกแรง เกร็งมากขึ้น ลุก นั่ง ลำบากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง    ก็คือ ชิ้นกระดูกสันหลังของคนเรา เรียงต่อกัน มีหมอนรองกระดูก และเส้นเอ็น ช่วยยึดให้กระดูกเชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรง แต่เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่ามหัศจรรย์ สามารถปรับตัวให้ยืดหยุ่น ตามร่างกายที่ขยายขึ้น ทำให้ข้อต่าง ๆ หลวมมากขึ้น รวมถึงกระดูกเชิงกรานขยายมากขึ้น เพื่อให้คลอดลูกได้ง่าย เหมือนกับการคลายน๊อตให้หลวม ดังนั้น เวลายืน หรือ เดิน ต้องออกแรงเกร็ง พยายามถ่วงน้ำหนักไปด้านหลัง เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายสามารถเดินได้อย่างปกติ จึงทำให้ ปวดขาและปวดหลังมากนั่นเอง อ่านเพิ่มเติม

” ไอ้ชาติโง่ ! ” ไม่รู้จักความถูกต้อง”

สวัสดีครับ พบกับบทความใหม่ใน Better Life Blog 

 นำเสนอสิ่งดี ๆ สู่ชีวิต ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

เทศนาธรรม  อาสาฬหะบูชาเทศนา  พุทธทาสภิกขุ สวนโมกขพลาราม  ๑๔ กรกฏาคม ๒๕๓๕  

” ไอ้ชาติโง่ ! ” ไม่รู้จักความถูกต้อง”

http://youtu.be/lYRNIs2svSo

บทกลอนสอนคน ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ

ต้นส้มซ่า

น้องเอยคือน้องส้มซ่า

ลูกดกหราร่าร่มฟ้าร่มดิน

อีกาตัวไหนจะกล้าเจาะ

กระรอกตัวไหนจะกล้ากิน

ร่มฟ้าร่มดินร่มหัวแม่มันทั้งเมือง …โว้ย ! !!

@Nuttanun Wung  ผู้คัดลอก

http://bit.ly/BetterLifeBlog

https://nutw.wordpress.com

http://facebook.com/lagone8888

http://twitter.com/NuttanunWung

* หายใจ * ไล่ความดัน

พระพุทธรูป

สวัสดีครับ พบกับบทความใหม่นำเสนอสิ่งดี ๆ สู่ชีวิต ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

* หายใจ * ไล่ความดัน

ความวุ่นวายในชีวิตที่เกิดขึ้นทำให้เราๆ ท่าน ๆ หลงลืมอะไรไปบางอย่าง หลงลืมแม้กระทั่งวิธีที่เรา

*หายใจ*

สังเกตุได้เลยว่า ทุกวันนี้คนเราหายใจ เข้า-ออก สั้นและตื้น มากขึ้นทุกที ยิ่งหายใจสั้นเท่าไร
อากาศก็จะลงไปในปอดและออกมาทางจมูกสั้นเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะพลัง
จากลมหายใจ จากออกซิเจน ที่เราปั้มเข้าไปจะไม่สามารถขับพิษ ขับคาร์บอนมอนอกไซด์
คาร์บอนไดออกไซด์ หรือปลุกเซลล์ต่าง ๆ ให้ฟื้นขึ้นมาได้ ผลก็คือง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีกำลัง
อ่อนเพลียโดยไม่รู้สาเหตุ นี่แหละเป็นผลจากการหายใจที่ไม่ถูกต้อง

โดยปกติคนเราจะหายใจโดยเฉลี่ย ๑๓.๘-๑๙.๔ ครั้ง/นาที แต่มีการพบว่า การหายใจที่ดีมี
ประสิทธิภาพนั้นจะต้องหายใจให้ได้ต่ำกว่า ๑๐ ครั้ง/นาที นั่นคือ คนเราต้องหายใจให้ยาวและลึก
มากขึ้น

ผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงฝึกการหายใจช้าและลึกวันละประมาณ
๑๕ นาที ติดต่อกันเป็นระยะเวลา ๒ เดือน ค่าความดันโลหิตจะลดมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ฝึกการหายใจ

ใช่แล้ว….อ่านไม่ผิด หายใจช้าๆ ลึกและยาว ทำให้ความดันลดลงได้

เพราะการหายใจยาวและลึก จะส่งเข้าไปกระตุ้นปลายประสาทที่เกี่ยวกับระบบความดัน การเค้น
หัวใจ และการไหลกลับของเลือดเข้าสู่หัวใจ มีผลทำให้ความดันเลือดลง
แต่ปัญหาก็คือ พบว่าการหายใจที่ถูกต้องเป็นเรื่องยาก เพราะจากภาวะของร่างกายที่ไม่พร้อม จิต
ใจที่ไม่ผ่อนคลาย ฟุ้งซ่าน โมโห กังวล รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมไม่อำนวย

ปัจจุบัน มีเครื่องที่ช่วยฝึกหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่อง Device-Guided Breathing ทำงาน
โดยระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์รูปแบบการหายใจ และออกแบบการหายใจใหม่ให้เหมาะสม ช้า
และลึก ต้องปฏิบัตินานเท่าไร เพื่อทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ทำให้
กล้ามเนื้อรอบหลอดเลือดขยายตัวขึ้น เป็นผลทำให้ความดันโลหิตลดลง

เพียงการฝึกด้วยเครื่อง ๑๕ นาที/วัน หรือ ๔๕ นาที/สัปดาห์ จะมีผลทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
ถึง ๑๔/๙ มิลลิเมตรปรอทภายใน ๑-๒ เดือน

การหายใจที่ดีมีประสิทธิภาพ ยังสามารถลดความเครียดที่เป็นบ่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้อีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้ว มาเริ่มหายใจกันครับ

….หายใจลึก ๆ ยาว ๆ เมื่อนึกขึ้นได้

เอ้า…..เริ่ม !!!

บทความจาก : นสพ.ประชาชาติธุรกิจ คอลัมภ์ วาไรตี้เฮลท์

หมายเหตุ. บทความอ้างถึง เครื่องช่วยฝึกการหายใจ ถ้าหาไม่ได้..ขอให้ดูบทความที่ลงไว้
เรื่อง *โยคะ ดีต่อจิตใจ และสุขภาพ * แนะนำเกี่ยวกับการหายใจ โดยไม่ต้องพึ่ง
เครื่องช่วยฝึก ครับ

คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วัง
๑๙/๑๒/๒๕๕๔ ๑๖.๐๐ น.

http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/BetterLifeBlog
http://bit.ly/NuttanunPage
https://nutw.wordpress.com
http://facebook.com/NuttanunWung
http://twitter.com/NuttanunWung


//

* โยคะ * ดีต่อจิตใจ และสุขภาพ

* โยคะ * ดีต่อจิตใจ และสุขภาพ

สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านบทความที่แบ่งปันให้แก่ทุกท่าน

กระแสการตื่นตัวในเรื่องโยคะที่โหมในห้วงเวลา ๒ – ๓ ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้คนหันมารักตนเอง ห่วงใยสุขภาพ และสนใจในเรื่องธรรมชาติบำบัดมากขึ้น ซึ่งโยคะก็เป็นศาสตร์ที่ใช้ธรรมชาติบำบัดโดยตรง เพราะโยคะ คือ การมองปัญหาที่เกิดกับสุขภาพของมนุษย์อย่างองค์รวมไม่แยกเป็นส่วน ๆ เหมือนกับการแพทย์แผนปัจจุบัน โยคะจึงไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานป้องกันโรคภัยใข้เจ็บ แต่โยคะยังดูแลถึงจิตใจ

ประโยชน์ของโยคะมีมากมายหลายด้าน เช่น

ทางร่างกาย   โดยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและผ่อนคลาย ยึดหยุ่น ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสง่างาม ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดความสมดุล

ทางด้านจิตใจ   เมื่อฝึกโยคะจะทำให้จิตใจเคลื่อนไหวน้อยลง การพัฒนาจิตก็จะดีขึ้น ทำให้รู้จักตัวเอง จิตสงบและเยือกเย็น เกิดความแจ่มใสไม่ฟุ้งฤซ่าน ผ่อนคลายความตึงเครียดอันเกิดจากชีวิตประจำวัน

ทางพลังงาน  ก็มีไม่แพ้กัน เพราะอาสนะยึดหลักการสงวนพลังงาน ไม่ใช่การโหมออกแรงแบบการออกกำลังกาย และไม่ได้ใช้แรงจากกล้ามเนื้อแขน ขา มาก จึงไม่เกิดกรดแลคติค ที่ส่งผลให้เกิดความเมื่อยหล้าหลังฝึก และทำให้พลังงานที่หยุดนิ่งในร่างกายของเราได้เคลื่อนไหว ไหลเวียนไปสู่ทุกส่วนของร่างกายได้สดวกยิ่งขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญโยคะ แนะสำหรับมือใหม่หัดเล่นโยคะว่า หลักของโยคะข้อหนึ่งก็คือ ปราณายาม ซึ่งหมายถึงการพัฒนาร่างกายเพื่อเอาประโยชน์จากอากาศให้ดีที่สุด แต่ในการฝึกใหม่ ๆ ให้คำนึงถึงท่าที่ถูกต้องเสียก่อน อย่ากังวลกับการหายใจ

เรื่องการหายใจ ให้ฝึกการหายใจโดยใช้หน้าท้องและทรวงอก หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบ ห้ามกลั้นหายใจระหว่างการฝึก และต้องหายใจทางจมูก ไม่ควรหายใจทางปาก ฝึกหายใจเข้าออกยาว ๆ ลึก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนให้ได้มากที่สุด

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ และเพื่อเป็นการผ่อนจิตใจและร่างกาย ผู้ฝึกควรเรียนรู้เทคนิคการหายใจด้วยหน้าท้อง Breath Awarness Technique ง่าย ๆ ดังนี้

โยคะ ดีต่อจิตใจและสุขภาพ

๑. เฝ้าสังเกตุ มีสติกำหนด รู้กับลมหายใจ จากนั้นเพิ่มการมีสติกำหนดรู้กับการเคลื่อนไหวของหน้าท้อง สังเกตุลมหายใจของเราที่ผ่อนช้าลง สงบลง ลมหายใจจากหยาบมาเป็นลมหายใจละเอียด

๒. ฝึกการหายใจสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของหน้าท้อง สูดลมหายใจเข้า ให้หน้าท้องพองขึ้น ผ่อนลมหายใจออก ให้หน้าท้องแฟบลง มีสติกำหนดรู้อยู่กับลมหายใจ ที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนขึ้นลงของหน้าท้อง พยายามดึงช่วงเวลาของลมหายใจออก ให้นานกว่าช่วงเวลาลมหายใจเข้า

๓. มีสติกำหนดรู้กับความสงบ มีสติกำหนดรู้ขณะที่ผ่อนลมหายใจออกจนสุดเฝ้าสังเกตุห้วงขณะที่เราหยุดหายใจ ซึ่งเป็นช่วงที่เราหายใจออกหมดแล้ว แต่การหายใจเข้ายังไม่เกิดขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจกลั้นลมหายใจ กำหนดรู้อยู่กับห้วงขณะที่ร่างกายไม่หายใจที่ว่านี้ อันเป็นห้วงขณะที่กายนิ่ง ลมหายใจหยุด และจิตสงบ คอยมีสติระลึกถึงห้วงเวลาที่จิตสงบ ตลอดทั้งวัน

คัดลอกจากบทความ นสพ.โพสต์ทูเดย์ ไกด์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๔

คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วัง
๑๙/๑๑/๒๕๕๔ ๑๖.๐๐ น.

http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/BetterLifeBlog
http://bit.ly/NuttanunPage
https://nutw.wordpress.com
http://facebook.com/lagone8888
http://twitter.com/NuttanunWung

นวดกดจุด คลายเครียด

 

สวัสดีครับ พบกับบทความใหม่ใน Nuttanun’s Blog
นำเสนอสิ่งดี ๆ สู่ชีวิต ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

<นวดกดจุดคลายเครียด>

บรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ หลาย ๆ คน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความเมื่อยล้า ความเครียด ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายได้

*ไลฟ์เซ็นเตอร์* ศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพผิว *แอสเทอร์สปริง* มาแนะวิธีการดูแลสุขภาพด้วยการนวดบำบัด กดจุด และคลายเครียด ให้กับผู้สนใจ

ศาสตร์แห่งการนวดบำบัดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และต่อมน้ำเหลือง เป็นการเพิ่มอัตราการส่งผ่านโลหิต และออกซิเจนเพื่อไปหล่อเลี้ยงผิวได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยกระตุ้นกระบวนการขับของเสีย และกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผิวคืนความมีชีวิตชีวา สดใส แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลาย บรรเทาอาการอ่อนล้าส่วนต่าง ๆ ของร่างกายระหว่างวันได้อีกด้วย

สำหรับท่านวดกดจุดง่าย ๆ เพื่อการผ่อนคลายในระหว่างวันทำได้ดังนี้.—-


ท่าที่ ๑ นวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ ท่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่รูสึกอ่อนล้ากับการใช้คอมฯ นาน ๆ เริ่มจากการใช้มือซ้ายนวดกดบริเวณไหล่ขวาส่วนที่รู้สึกตึง ๆ โดยกดน้ำหนักทั้งบริเวณฝ่ามือ และนิ้วมือ นับ ๑ – ๕ ทำ ๓ ครั้ง เปลี่ยนใช้มือขวาจับใหล่ซ้าย ทำอีก ๓ ครั้ง จะสามารถลดความรู้สึกอ่อนล้าบริเวณไหล่และต้นคอได้ดี

 

 

ท่าที่ ๒ นวดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ เหมาะสำหรับการคลายเดรียดและลดอาการตึงบริวเณต้นคอ โดยใช้มือวางลงที่ด้านหลังของลำคอ บีบและคลายประมาณ ๕ – ๑๐ ครั้ง โดยลงน้ำหนักที่นิ้วมือ + ฝ่ามือ

 

 

ท่าที่ ๓ นวดใบหู การนวดใบหูนอกจากจะช่วยให้รู้สึกสบาย และผ่อนคลายแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงไตให้แข็งแรงอีกด้วย เริ่มจากการจับใบหูทั้งสองข้าง โดยวางปลายนิ้วโป้งไว้ด้านหลังใบหู และนิ้วที่เหลืออยู่ด้านหน้า นวดคลึงใบหูให้ทั่ว จนรู้สึกอุ่น ก่อนปล่ยมือ ดึงใบหูออก้านข้างเบา ๆ นับ ๑ – ๓ แล้วคอ่ย ๆ ปล่อยมือ

 

 

ท่าที่ ๔ การนวดตา ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสำหรับผู้ที่ใช้สายตาเยอะ ๆ อยู่หน้าจอคอมฯ นาน ๆ ใช้ปลายนิ้วโป้งกดบริเวณหัวตา กดค้างไว้ นับ ๑ – ๖ และค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนัก

 

 

ท่าที่ ๕ นวดหนังศีรษะ ท่านวดนี้จะช่วยระบบการไหลเวียนของโลหิต และทำหให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้มีการตื่นตัวของระบบประสาท และช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมด้วยจ เริ่มจากใช้นิ้วสอดเข้าไปในเส้นผมชิดหนังศีรษะ ค่อย ๆ กำมือค้างไว้ จนรู้สึกตึงที่ศีรษะ นับ ๑ – ๓ แล้วเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ จนทั่วศีรษะ

 

 

ท่าที่ ๖ นวดบริเวณขมับ ช่วยลดอาการตึงเครียด ลดอาการปวดศีรษะ ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง กดคลึงบริเวณขมับเป็นวงกลมประมาณ ๖ ครั้ง แล้วกดน้ำหนักค้างไว้นับ ๑ – ๓ แล้วค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักปล่อยมือ

ทั้งหมดนี้ทำได้ง่าย ๆ ที่โต๊ะทำงาน / ที่บ้าน / เมื่อมีเวลาว่าง….เพื่อความผ่อนคลายในระหว่างวัน
จากบทความ วาไรตี้เฮลท์ นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ วันจันทร์ที่ ๓ – วันพุธที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๔

แบ่งปันโดย : ณัฐนันท์ วัง
๒๐/๑๐/๒๕๕๔

http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/NuttanunPage
http://bit.ly/BetterLifeBlog
https://nutw.wordpress.com

รู้จักใจ คือ กำไรชีวิต

 

รู้จักใจ คือ กำไรชีวิต

สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านบทความที่แบ่งปันให้แก่ทุกท่าน

รู้จักใจ คือ กำไรชีวิต บทที่ ๒/๑

บริหารจัดการใจ

คำว่า ปฏิบัติธรรม นั้น หากไม่เคยสัมผัสมาก่อน หลาย ๆ คนฟังแล้วอาจนึกว่าเป็นเรื่องของผู้เฒ่า ผู้แก่ ที่พ้นวัยทำงานแล้ว เข้าวัดปฏิบัติธรรม รักษาศีล ส่วนคนหนุุ่ม – สาว ยังไม่ถึงเวลาปฏิบัติธรรม เพราะจะทำให้เสียเวลาเล่าเรียนและทำการงาน

ในเบื้องต้น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า * การปฏิบัติธรรมนั้น เป็นเรื่องของคนทุกวัย * เพราะการปฏิบัติธรรมนั้น คือ การเรียนรู้ตัวตนของตนเอง ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ดีขึ้น

หนังสือ *รู้จักใจ คือ กำไรชีวิต* สำนักพิมพ์อมรินทร์
พระอาจารย์มานพ อุปสโม
ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษาราชนครินทร์
(เขากินหนองแสง) ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
๒๒/๑๐/๒๕๕๔

http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/NuttanunPage
https://nutw.wordpress.com
http://facebook.com/lagone8888
http://twitter.com/NuttanunWung

รู้จักใจ คือกำไรชีวิต ตอนจบ/ภาค ๑


* สุข สงบ ร่มเย็น เพราะดูใจเป็น เห็นทุกข์ดับได้ *

รู้จักใจ คือ กำไรชีวิต ตอนจบ/ภาค๑

                                                                                               * ความสุขใกล้ ๆ ในตัวเรา * 

เมื่อเราอยู่กับใจของตัวเองได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีความสุข เพราะการอยู่กับตัวเองด้วย
การตามดูกายและใจให้ทันตลอดเวลานั้น จะทำให้เราสามารถพรากใจออกจากการคิดถึงคนอื่น
รวมทั้งเรื่องในอดีตและอนาคตได้

เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปคิดถึงอย่างอื่นอีก นอกจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นกับกาย
และใจเท่านั้น เมื่อพาใจมาอยู่กับตัวเองและปัจจุบันได้แล้ว ทุกข์จึงหมดไป เพราะไม่ได้คิดถึง
เรื่องที่ทำให้ใจต้องกังวลอีก และใจของเราก็จะพบกับความสุขอย่างแท้จริงยิ่งขึ้น

ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มีทรัพย์สินเงินทองมากมายแค่ไหน หากเราไม่สามารถแก้ปัญหาของใจ
ได้ เราก็จะต้องอยู่อย่างทุกข์ใจไปตลอดชีวิต

ดังนั้น เมื่อเราโชคดี มีโอกาสได้เรียนรู้ใจของเราเองตามแนวทางของพระพุทธเจ้าแล้ว
เราก็ต้องนำความรู้ที่ได้ไปฝึกฝนต่อให้มาก แล้วการดับทุกข์อย่างถาวรก็จะไม่เป็นเรื่องเหลือวิสัย
ต่อไป

*ให้หยุดคิดถึงคนอื่นแล้วหันมาคิดถึงตัวเองแทน*

ที่มา : หนังสือ * รู้จักใจ คือกำไรชีวิต * สำนักพิมพ์ อมรินทร์
พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษาราชนครินทร์
(เขาดินหนองแสง) อ.แก่งหางแมว จันทบุรี

คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
๑๓/๑๐/๒๕๕๔ ๑๖.๓๗ น.

http://bit.ly/BCS2506
http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/NuttanunPage
http://twitter.com/NuttanunWung

รู้ทัน…มะเร็งต่อมน้ำเหลือง


รู้ทัน…มะเร็งต่อมน้ำเหลือง


ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านบทความที่แบ่งปันมานี้
ยินดีรับคำแนะนำ ติ ชม จากท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

รู้ทัน…มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

* มะเร็งต่อมน้ำเหลือง * เป็นมะเร็งทางโลหิตวิทยา ที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย
และในโลก โดยติดอันดับ ๑ ใน ๕ ของมะเร็งที่พบบ่อยของชายไทย เกิดจากความผิดปกติใน
ต่อมน้ำเหลืองและเนื้้อเยื่อลิมฟอยด์ต่าง ๆ แบ่งเป็น ๒ ชนิด ได้แก่

๑. Non-Hodgkin lymphoma (NHL)
๒. Hodgkin disease (HD)

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งสองชนิดจะมีอาการคล้ายกัน คือ มีต่อมน้ำเหลืองโตเป็นหลัก
แต่ NHL อาจมีก้อนโตที่อวัยวะอื่น ๆ ได้บ่อยกว่า เช่น ที่ลำใส้ ปอด สมอง เป็นต้น

ในประเทศไทยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่พบส่วนใหญ่จะเป็นชนิด NHL ซึ่งยังสามารถแบ่ง
ได้มากกว่า ๓๐ ชนิดย่อย แต่ละชนิดจะใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป จึงมีความจำเป็นต้อง
ตรวจเพิ่มอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบถึงชนิดที่แท้จริงของมะเร็ง อันจะนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมต่อไป

วิธีสังเกตุอาการเบื้องต้น

คลำพบต่อมน้ำเหลืองโต บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ โดยไม่รู้สึกเจ็บ แต่จะค่อย ๆ
โตเป็นกลุ่ม มีขนาดใหญ่ขึ้น (หากไม่รักษาอาจโตเท่าผลส้มโอ)

มีใข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน และน้ำหนักตัวลด

อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นใส้อาเจียน อาจมี ตับ หรือ ม้าม โตจากมะเร็ง
ที่ไปแทรกในอวัยวะทั้งสอง

– ต่อมน้ำเหลืองที่เป็นมะเร็งจะโตเร็วมาก อาจเกิดแตกเป็นแผล และมีเลือดออกได้ ตำแหน่ง
ที่พบบ่อย ได้แก่ ต่อมน้ำเหลืองที่ คอ รักแร้ และขาหนีบ เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษา
แต่ต้น มะเร็งจะแพร่กระจายไปสู่ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และมีผลทำให้การทำงานของร่างกาย
ล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้

– ภูมิคุ้มกันลดลง ระบบป้องกันโรค และป้องกันการติดเชื้อลดประสิทธิภาพลงไป

– มีอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ต่อมน้ำเหลืองในช่องอกโต อาจกดหลอดเลือดดำ ทำให้เกิด
อาการบวมบริเวณใบหน้าและคอ ถ้าลุกลามไปยังระบบทางเดินอาหาร จะมีอาการของทาง
เดินอาหารอุดตัน ทำให้มีอาการ กลืนลำบาก คลื่นใส้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง ตับ ม้ามโต
ตัวเหลือง ตาเหลือง

หากพบอาการหรือข้อสงสัยใด ๆ แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป……

ที่มา : บทความโฆษณา นสพ.ไทยรัฐ วันพฤหัสบดีที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๔
ของ โรงพยาบาลวัฒโนสถ โรงพยาบาลรักษาด้านโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซ.ศูนย์วิจัย

คัดลอกโดย :  @Nuttanun Wung
19:22 2/6/2554
http://bit.ly/Bkk06-Club
http://bit.ly/NuttanunPage
http://bit.ly/BetterLifeBlog
https://nutw.wordpress.com

รู้จักใจ คือกำไรชีวิต ตอนที่ ๓

พระอัฏฐารส

พระอัฏฐารส พิษณุโลก

สวัสดีครับ  ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านบทความที่ผมนำเสนอ
* สุข สงบ ร่มเย็น เพราะดูใจเป็น เห็นทุกข์ดับได้

รู้จักใจ ฯ ตอนที่ ๓

                                                         * ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว *

              เราทุกคนมีชีวิตที่ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญสองส่วน คือ กายกับใจหากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป อีกสิ่งก็อยู่ไม่ได้ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับทั้งสองส่วนเท่า ๆ กัน

                แต่ว่าโดยทั่วไปแล้ว เรามักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญของใจกันสักเท่าไร
มัวแต่ให้ความสำคัญกับร่างกายกันเป็นส่วนมาก ในชีวิตประจำวันเราได้ทุ่มเทให้กับการดูแลบำรุงร่างกาย แต่ปล่อยปละละเลยการดูแลรักษาใจ ทั้ง ๆ ที่ใจนั่นเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสุขและความทุกข์ในชีวิตเรา

             ลองคิดดูให้ดีว่า สุข และ ทุกข์ นั้่นเกิดขึ้นที่ใหน หากไม่ใช่ที่ใจของเรา

       นี่คือที่มาของคำกล่าวที่ว่า * ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว * เพราะในทุกสถานการณ์ของชีวิตไม่ว่าเราจะเป็นอะไรหรือทำอะไร  ใจของเรานั้นเป็นใหญ่  ใจมาก่อนกายเสมอ ใจต้องคิดก่อน

             เพราะเหตุนี้เราจึงต้องมาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เรื่องของใจ เพื่อจะได้สามาถดูแลรักษาใจของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ที่มา : หนังสือ * รู้จักใจ คือกำไรชีวิต * สำนักพิมพ์ อมรินทร์
พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษาราชนครินทร์
(เขาดินหนองแสง) อ.แก่งหางแมว จันทบุรี

คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
๒๘/๐๕/๒๕๕๔

http://bit.ly/Bcs06
http://bit.ly/NuttanunPage